ชวนลิ้มรสอาหารญี่ปุ่นจากความรักของแม่ ที่ร้าน Ootoya

ชวนลิ้มรสอาหารญี่ปุ่นจากความรักของแม่ ที่ร้าน Ootoya

Ootoya คือหนึ่งในร้านอาหารญี่ปุ่นยักษ์ใหญ่ที่เปิดให้บริการในประเทศไทยมานานพอสมควรแล้ว ทางร้านมีความมุ่งมั่นที่จะเสิร์ฟอาหารญี่ปุ่นที่ทำจากวัตถุดิบพรีเมียม ปรุงอย่างพิถีพิถันและใส่ใจคนทาน เหมือนกับแม่ที่คอยทำอาหารให้ลูกทานด้วยความรัก เพียงแค่สโลแกนนี้ก็กินขาดแล้ว

Ootoya

ประวัติของร้าน Ootoya นั้นเริ่มต้นจากการเป็นร้านอาหารเล็ก ๆ ที่เริ่มต้นในปี 1958 บริหารจัดการโดย Mr. Eiichi Mitsumori ในย่าน Ikebukro ในเมืองโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น โดยชื่อของร้านเป็นชื่อสวนองุ่นของ Mr. Eiichi Mitsumori นอกจากนั้นยังมีความหมายว่าประตูบานใหญ่ ร้านมีจุดเด่นที่ขายอาหารทุกเมนู เมนูละ 50 เยนเท่านั้นเอง จึงทำให้ได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงที่ญี่ปุ่นกำลังฟื้นตัวจากพิษสงครามโลก จนทำให้สามารถขยายสาขาได้อย่างรวดเร็วกว่า 300 สาขาในญี่ปุ่น รวมถึงประเทศต่าง ๆ ในเอเชียด้วย ไม่ว่าจะเป็นไต้หวัน ฮ่องกง อินโดนีเซีย และสิงคโปร์

ในส่วนของร้าน Ootoya ในประเทศไทยนั้นมีสาขาแรกที่ J Avenue ทองหล่อในปี 2005 ภายใต้การบริหารงานของบริษัท โอโตยะ (ไทยแลนด์) จำกัด ซึ่งสืบต่อสโลแกน “Japanese Mom-Made Cooking Style” มาจากสาขาแม่ในประเทศญี่ปุ่นและมีสาขาในไทยมากกว่า 40 สาขาแล้ว ในส่วนของรสชาติของอาหารเข้ากับเทรนด์สุขภาพมาก ๆ เพราะว่าเน้นการปรุงแต่งไม่มาก เน้นบำรุงสุขภาพ รสชาติแบบญี่ปุ่นแท้ ๆ ในราคาที่จับต้องได้ เมนูที่แนะนำก็มีด้วยกันหลากหลายเมนู ไม่ว่าจะเป็น คัตสึโทจิ ปลาชิมาฮอกเกะย่างถ่าน ซุปกิมจิ ซุปกิมจิกับเต้าหู้สด ชุดหมูทอดราดซอสมิโซะ สึคุเนะย่างถ่านและหมูทอดในซุปมิโซะแดง

ร้าน Ootoya ยังคงมุ่งมั่นคัดสรรวัตถุดิบและเมนูใหม่ ๆ มาเพื่อนำเสนอกับลูกค้า คำนึงถึงความพึงพอใจของลูกค้าเป็นสำคัญ อย่างเช่น Special Menu เมนูพิเศษสุดจากปลาญี่ปุ่นอย่าง ข้าวหน้าปลาไหลย่างถ่าน ข้าวหน้าปลาคัมปาจิชิราชิ ซาชิมิปลาคัมปาจิ ซาชิมิปลาแซลมอน ข้าวห่อสาหร่ายหน้าปลาไหลย่างถ่าน ข้าวหน้าปลาไหลจิราชิ และข้าวปั้นคลุกงาหน้าปลาไหลย่างถ่าน ซึ่งไม่ใช่เพียงแค่ความอร่อย รสชาติละมุนไม่แพ้บินไปทานที่ประเทศญี่ปุ่นเท่านั้น แต่ด้วยกรรมวิธีการปรุงที่ห่วงใยสุขภาพคนทานเป็นที่สุด จึงทำให้คุณมั่นใจได้ว่าอาหารของร้านนั้นดีต่อสุขภาพ สามารถทานได้ทุกวัน

อีกหนึ่งสิ่งที่ต้องขอชื่นชมในเรื่องของแนวคิดดำเนินงานของทางร้านเลยก็คือความเคารพต่อลูกค้า ทางร้านทราบดีกว่ามีร้านอาหารญี่ปุ่นมากมายที่พร้อมจะบริการลูกค้าอยู่ตลอดและอาจจะมีความตั้งใจไม่แพ้กับทางร้าน แต่ลูกค้าก็ยังเลือกที่จะมาทานที่ร้าน Ootoya ทางร้านจึงรู้สึกยิ่งกว่าขอบคุณสำหรับการสนับสนุนของลูกค้ามาตลอด และตั้งใจจะตอบแทนด้วยมื้ออาหารแสนอร่อย ราคาไม่แพงและบริการที่ยอดเยี่ยม ถือว่าเป็นแนวคิดที่หาได้ไม่มากในยุคนี้ทีเดียว